เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร Q
เครื่องหมาย Q หรือ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร คือ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานใช้แสดงกับสินค้าเกษตร เพื่อเป็นการรับรองเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดส่วนประกอบ วิธีการผลิต คุณภาพ หรือลักษณะอื่นใด ของสินค้าเกษตร ซึ่งมีความสำคัญในการสื่อสารไปยังผู้บริโภค หรือผู้ซื้อให้เกิดการยอมรับเชื่อมั่น และเชื่อถือต่อสินค้าเกษตรว่ามีมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัย
จุดประสงค์ของเครื่องหมาย Q
1. เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า สินค้าปลอดภัยและมีคุณภาพ
2. ส่งเสริมให้ผู้ผลิตมี ระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน
3. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทย
เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน
- เครื่องหมายรับรองมาตรฐานทั่วไป มีลักษณะเป็นรูปอักษร Q สีเขียวทรงกลม
- เครื่องหมายรับรองมาตรฐานทั่วไปสำหรับมาตรฐานเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ สามารถใช้สีใดก็ได้ เพื่อให้มองเห็นได้ง่ายและชัดเจน
สินค้าที่แสดงเครื่องหมาย Q พร้อมรหัส
เพื่อแสดงว่าได้รับการรับรองคุณภาพ มาตรฐานปลอดภัยตามที่มีกำหนดไว้ โดยรหัสใต้เครื่องหมาย Q จะบ่งบอก
1. ชื่อผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน
2. รหัสมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ให้การรับรอง
3. ชื่อผู้ได้รับใบรับรอง
วิธีการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารหรือ "Q"
กฎกระทรวง กำหนดลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมายและการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานกับสินค้าเกษตร พ.ศ. 2553 ได้กำหนดวิธีการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน ดังนี้
(1) การแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน ให้แสดงให้เห็นได้ง่ายและชัดเจนไว้ที่
(1.1) สินค้าเกษตร และสิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อ สิ่งผูกมัด หรือป้ายของสินค้าอีกด้วยก็ได้หรือ
(1.2) แสดงไว้ที่สิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อ สิ่งผูกมัด หรือป้ายของสินค้า ถ้าไม่อาจแสดงหรือไม่ สะดวกที่จะแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานไว้ที่สินค้าเกษตร
(1.3) แสดงไว้ที่สถานประกอบการ เอกสารรับรองหรือประกาศนียบัตร หรือจะใช้เพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ด้วยก็ได้ ในกรณีเป็นการรับรองกระบวนการจัดการของสินค้าเกษตร
(2) ในการแสดงหรือใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน ให้ระบุรายละเอียดดังต่อไปนี้เป็นรหัสไว้ ใต้ เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน
(2.1) ชื่อผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน ระบุเป็นอักษร กษ ตามด้วยหมายเลขที่ มกอช. กำหนด ทั้งนี้หากเป็นรหัสเพื่อการส่งออกจะระบุรหัสเป็นอักษร AC แทนอักษร กษ ก็ได้
กรณีสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากต่างประเทศ ให้ระบุรหัสเป็นอักษรภาษาอังกฤษตามชื่อตาม ประเทศส่งออกที่เป็นผู้ตรวจสอบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรนั้น ตามมาตรฐานไอเอสโอ 3166 (รายละเอียดตามภาคผนวก ข)
(2.2) มาตรฐานสินค้าเกษตรที่ให้การรับรอง ให้ระบุ ตามหมายเลขมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ให้การ รับรอง โดยไม่ต้องระบุปีที่กำหนดมาตรฐาน
(2.3) ชื่อผู้ได้รับใบรับรอง ให้ระบุรหัสเป็นหมายเลขตามที่ มกอช. กำหนด
(3) ในกรณีที่แสดงหรือใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานเกี่ยวกับการรับรองกระบวนการจัดการของ สินค้าเกษตรให้ระบุชื่อย่อของมาตรฐานไว้ต่อท้ายรหัสเครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้วย
(4) ในกรณีที่สินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานสินค้าเกษตรตั้งแต่สองมาตรฐานขึ้นไป และ ประสงค์จะแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน อาจระบุรายละเอียดรหัสใบรับรองทั้งหมดไว้ใต้ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานแบบเดียวกันก็ได้
ความหมายของรหัสเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ : https://tascode.acfs.go.th/index.php/about/3-means
หลักเกณฑ์การใช้ชื่อย่อของมาตรฐานกระบวนการจัดการหรือระบบการผลิตสินค้าเกษตร
GAP = ใช้กับมาตรฐานเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี และการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำที่ดี
ORGANIC = ใช้กับมาตรฐานเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์
GMP = ใช้กับมาตรฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ดีสำหรับกระบวนการผลิต และการปฏิบัติที่ดีสำหรับการ คัดบรรจุ รวมทั้งมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์การปฏิบัติ: หลักการทั่วไปเกี่ยวกับ สุขลักษณะอาหาร (มกษ. 9023) และมาตรฐานที่เกี่ยวกับการปฏิบัติที่ดีด้านสุขลักษณะอื่นๆ
GFP = ใช้กับมาตรฐานเกี่ยวกับหลักปฏิบัติหรือการปฏิบัติที่ดีสำหรับกระบวนการรมสินค้าเกษตรด้วย สารเคมี เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เมทิลโบรไมด์หรือฟอสฟีน เป็นต้น
HACCP = ใช้กับมาตรฐานเกี่ยวกับระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม
ไม่ต้องใช้ชื่อย่อ เมื่อแสดงรหัสสำหรับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (product certification)
เหตุผลที่ต้องมีเครื่องหมาย Q
1. สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
- เครื่องหมาย Q เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า สินค้าเกษตรนั้นผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานที่ กำหนด
- ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่มีสารพิษตกค้างเกินค่ากำหนด
2. ส่งเสริมเกษตรกรให้ผลิตตามมาตรฐาน
- ช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรไทย
- เกษตรกรมีแนวทางในการผลิตที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
3. เพิ่มมูลค่าและความสามารถในการแข่งขัน
- สินค้าที่มีเครื่องหมาย Q สามารถจำหน่ายในราคาที่สูงกว่า
- สร้างความแตกต่างและความได้เปรียบทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
4. สนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตร
- หลายประเทศปลายทางต้องการหลักฐานว่าผลิตภัณฑ์เกษตรได้มาตรฐาน
- เครื่องหมาย Q ช่วยให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
5. ลดปัญหาเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค
- ลดความเสี่ยงจากสารเคมีตกค้าง ยาฆ่าแมลง หรือเชื้อโรค
- ป้องกันโรคที่อาจมาจากอาหาร (Foodborne Illness)
ขั้นตอนหลักในการขอเครื่องหมาย Q
1. เลือกมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ
ตัวอย่างเช่น
- GAP (การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี) เช่น GAP พืช, GAP ปศุสัตว์
- Organic (เกษตรอินทรีย์)
- GMP หรือมาตรฐานแปรรูปอื่น ๆ
2. ศึกษามาตรฐานและเตรียมความพร้อม
- ข้อมูลการผลิต
- ระบบการจัดการ
- การจดบันทึกต่าง ๆ เช่น บันทึกการใช้สารเคมี, การให้น้ำ, เก็บเกี่ยว ฯลฯ
- เอกสารแสดงพื้นที่ / แปลงผลิต / แผนผังฟาร์ม
3. ยื่นคำขอรับรอง
- ยื่นคำขอที่ สำนักงานเกษตรอำเภอ / สำนักงานปศุสัตว์ / สำนักงานประมง (ตามประเภทสินค้า)
- หรือยื่นผ่าน หน่วยรับรองที่ได้รับอนุญาตจาก มกอช.
4. เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่จริง
- ตรวจสอบการปฏิบัติงานในฟาร์ม / แปลง / โรงเรือน ว่าตรงตามมาตรฐานหรือไม่
- อาจมีการให้แก้ไขข้อบกพร่อง (ถ้ามี)
5. ผ่านการรับรองและออกใบรับรอง
เมื่อผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จะได้รับ ใบรับรองมาตรฐาน และ สิทธิ์ใช้เครื่องหมาย Q บนสินค้า
⏱ ระยะเวลา: โดยทั่วไปประมาณ 30–60 วัน ขึ้นกับความพร้อมของผู้ขอและคิวการตรวจของเจ้าหน้าที่
***หมายเหตุ***
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการขอเครื่องหมาย Q จากหน่วยงานรัฐ
- ผู้ผลิตควรรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อการตรวจติดตามในรอบปี
อ้างอิงและสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ :
https://warning.acfs.go.th/en/articles-and-research/view/?page=46
https://www.opsmoac.go.th/mukdahan-local_wisdom-preview-461591791837
https://tascode.acfs.go.th/index.php/about/3-means