Food safety standard

คืออะไร

Food safety standard คืออะไร

Food safety standard หรือมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร หมายถึง กฎระเบียบและข้อกำหนดต่างๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าอาหารมีความปลอดภัยต่อการบริโภค ปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มาตรฐานเหล่านี้ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การจัดเก็บ การขนส่ง จนถึงการจำหน่ายอาหาร

าตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้:

1. ป้องกันการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ สารเคมี หรือสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
2. กำหนดข้อกำหนดด้านสุขลักษณะและสุขอนามัยในการผลิตและจัดการอาหาร
3. รักษาคุณค่าทางโภชนาการและคุณภาพของอาหาร
4. มีกระบวนการติดตามและตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อให้สามารถสืบค้นแหล่งที่มาของอาหารได้

มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารที่บริโภคมีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน

ทำไมผู้ประกอบการจึงควรมีระบบนี้

ผู้ประกอบการควรมีระบบมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร เนื่องจากมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้

1. ปกป้องสุขภาพของผู้บริโภค ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคและการปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ประกอบการ
2. สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
3. ลดความเสี่ยงด้านกฎหมาย โดยการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหาร หลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือดำเนินคดี
4. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดของเสียและการสูญเสียวัตถุดิบ ด้วยการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน
5. ขยายโอกาสทางการตลาด สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าและตลาดต่างประเทศที่มีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอาหารสูง
6. สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เป็นจุดแข็งเหนือคู่แข่งที่ไม่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหาร

ดังนั้น การมีระบบมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่ดีจึงเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในด้านการลดความเสี่ยง การยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ และโอกาสทางการตลาดในระยะยาว

ปัจจัยหลักของระบบที่ต้องทำ

ปัจจัยหลักที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญในการจัดทำระบบมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่มีประสิทธิภาพ มีดังนี้:

1. การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)

   - ประเมินจุดวิกฤตและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในทุกขั้นตอนการผลิตอาหาร
​  - วิเคราะห์อันตรายทางกายภาพ เคมี และชีวภาพที่อาจปนเปื้อนในอาหาร 

2. โปรแกรมการป้องกันข้อบกพร่อง (Prerequisite Programs) 

   - จัดทำแนวปฏิบัติด้านสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP)   
​  - กำหนดขั้นตอนในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรง
​  - ควบคุมสุขอนามัยของพนักงานและแหล่งน้ำที่ใช้

3. จุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Critical Control Points - CCPs)

   - ระบุจุดวิกฤตที่จำเป็นต้องควบคุมเป็นพิเศษเพื่อป้องกันหรือกำจัดอันตราย
​  - กำหนดขีดจำกัดวิกฤตและมาตรการในการตรวจสอบและแก้ไข

4. ระบบการตรวจสอบและติดตาม (Monitoring and Verification)

   - มีระบบการเฝ้าระวังและตรวจสอบประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมต่างๆ
​  - บันทึกและรายงานผลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ

5. แผนสำรองฉุกเฉิน (Emergency Plans)

​- จัดทำแผนเตรียมพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การเรียกคืนผลิตภัณฑ์ การสอบสวนและแก้ไขปัญหา

6. การฝึกอบรมบุคลากร (Personnel Training)

   - ให้ความรู้และฝึกอบรมพนักงานในทุกหน้าที่ให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหารอย่างถูกต้อง
​​  - สร้างจิตสำนึกในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค 

การให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างระบบมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง ควบคุมคุณภาพ และรักษาความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหาร

 

Food safety standard
Inthira Mahawong 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2024
แชร์โพสต์นี้
แท็ก
บล็อกของเรา
เก็บถาวร
ลงชื่อเข้าใช้ ที่จะแสดงความคิดเห็น
อายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่เราจะพบบ่อยว่าจะหมดอายุแล้วแต่ผลิตภัณฑ์ยังไม่เน่าเสีย?
สามารถทานต่อได้หรือไม่?