กระบวนการผลิตอาหารกระป๋อง (Canned Food Production Process)
กระบวนการผลิตอาหารกระป๋อง (Canned Food Production Process) คือ กระบวนการแปรรูปอาหาร โดยการบรรจุอาหารลงในภาชนะที่ปิดสนิท (เช่น กระป๋องโลหะ) และผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง เพื่อ ยืดอายุการเก็บรักษา และทำให้สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น โดยยังคงคุณค่าทางโภชนาการและความปลอดภัยในการบริโภค มีขั้นตอนที่ต้องควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารปลอดภัยจากจุลินทรีย์ ปลอดภัยต่อการบริโภค และคงคุณภาพได้นาน
วัตถุประสงค์หลักของการผลิตอาหารกระป๋อง
1. ยืดอายุการเก็บรักษา (Shelf-life extension)
2. ทำลายจุลินทรีย์ ที่เป็นอันตราย เช่น Clostridium botulinum
3. ลดการสูญเสียอาหาร จากการเน่าเสีย
4. สะดวกในการขนส่งและบริโภค
หลักการพื้นฐานของการผลิตอาหารกระป๋อง
1. บรรจุอาหารในภาชนะที่ปิดสนิท (Hermetically Sealed Container)
เช่น กระป๋องโลหะหรือแก้วที่ไม่มีอากาศเข้าออกได้
2. ใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อ (Thermal Processing) อุณหภูมิสูงกว่า 100°C ภายใต้ความดันควบคุม
เพื่อทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเสีย
3. ควบคุมกระบวนการอย่างแม่นยำ
เช่น ระยะเวลาการฆ่าเชื้อ (F₀ value), การไล่อากาศ, การซีล
ตัวอย่างอาหารกระป๋อง
- ปลากระป๋อง (เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า)
- ผัก/ผลไม้กระป๋อง (ข้าวโพดหวาน หน่อไม้ ลิ้นจี่)
- อาหารพร้อมรับประทาน (แกงกระป๋อง, ซุป, ข้าวผัด)
การผลิตอาหารกระป๋องเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อนและต้องควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย รวมถึงมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง ดังนี้คือ มาตรฐานหลักที่โรงงานผลิตอาหารกระป๋องควรมี
1. มาตรฐานกฎหมายไทยที่บังคับใช้
1.1 อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
- ขอเลข อย. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง
- ต้องปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ GMP (Good Manufacturing Practice) พื้นฐาน
- อาหารกระป๋องถือเป็น อาหารควบคุมเฉพาะ ต้องขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ก่อนจำหน่าย
1.2 มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)
เช่น มอก. 1376-2552 สำหรับอาหารกระป๋องที่ฆ่าเชื้อโดยใช้ความร้อน
2. มาตรฐานคุณภาพสากล (เพื่อการส่งออก / สร้างความเชื่อมั่น)
2.1 GMP (Good Manufacturing Practice)
ข้อกำหนดพื้นฐานด้านสุขลักษณะในโรงงานผลิตอาหาร เช่น โครงสร้างอาคาร พื้นที่ผลิต
ความสะอาด การควบคุมศัตรูพืช ฯลฯ
2.2 HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points)
ระบบวิเคราะห์อันตรายและควบคุมจุดวิกฤตในกระบวนการผลิต เช่น จุดควบคุมอุณหภูมิการฆ่า เชื้อในกระบวนการบรรจุกระป๋อง
2.3 ISO 22000 / FSSC 22000
ระบบบริหารความปลอดภัยอาหารระดับสากล เหมาะสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการส่งออกหรือร่วม งานกับห่วงโซ่อุปทานที่ต้องการมาตรฐานสูง
2.4 BRC / IFS Food
เป็นมาตรฐานของยุโรปที่เน้นด้านคุณภาพและความปลอดภัยในห่วงโซ่อาหาร สำหรับการส่ง ออกไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมในยุโรป
กระบวนการผลิตอาหารกระป๋อง (ทั่วไป)
1. การเตรียมวัตถุดิบ (Raw Material Preparation)
- คัดเลือกวัตถุดิบที่สด สะอาด และได้มาตรฐาน
- ล้างทำความสะอาดวัตถุดิบ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์
- ปอกเปลือก หั่น ตัดแต่ง หรือหั่นขนาดให้เหมาะสม
2. การทำให้สุกเบื้องต้น (Blanching / Pre-cooking)
- ต้ม ลวก หรืออบไอน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อบางส่วน
- ทำให้เนื้อนุ่ม และลดปริมาณอากาศในวัตถุดิบ
3. การบรรจุลงกระป๋อง (Filling)
- เติมวัตถุดิบที่ผ่านการเตรียมลงในกระป๋อง
- เติมน้ำเกลือ ซอส หรือของเหลวที่เหมาะสม (Brine / Syrup / Sauce)
4. การไล่อากาศ (Exhausting)
- ไล่อากาศออกจากกระป๋องก่อนปิดฝา เพื่อสร้างสุญญากาศ
- ทำได้โดยใช้ความร้อน หรือระบบสูญญากาศ
5. การปิดฝา (Seaming / Sealing)
- ใช้เครื่องซีลฝาเพื่อปิดฝาให้สนิทและแน่น
- ตรวจสอบการซีลเพื่อป้องกันการรั่วซึม
6. การฆ่าเชื้อ (Sterilization / Retorting)
- ใช้ความร้อนสูง (เช่น 115 – 121°C) ภายใต้แรงดันใน Autoclave หรือ Retort
- ระยะเวลาฆ่าเชื้อขึ้นอยู่กับชนิดอาหารและขนาดภาชนะ
- จุดประสงค์: ฆ่าจุลินทรีย์โดยเฉพาะ Clostridium botulinum
7. การทำให้เย็น (Cooling)
- ลดอุณหภูมิลงทันทีหลังฆ่าเชื้อ เพื่อหยุดการสุกต่อ
- ใช้น้ำเย็นหรือสเปรย์น้ำ
8. การเก็บรักษาและตรวจสอบ (Storage & Inspection)
- ตรวจสอบกระป๋องที่มีการบวม รั่ว หรือเสียหาย
- ทดสอบค่า pH, ค่า F₀, ความสะอาด ฯลฯ
- เก็บสินค้าในที่แห้ง อุณหภูมิเหมาะสม ไม่ชื้น
9. การติดฉลากและบรรจุภัณฑ์ (Labeling & Packaging)
- ติดฉลากสินค้าที่ผ่าน QC
- บรรจุลงลังหรือกล่อง พร้อมส่งจำหน่าย
10. การควบคุมคุณภาพ (Quality Control)
- ทดสอบตัวอย่างทางจุลชีววิทยา
- ตรวจสอบการซีลฝา (Can Seam Test)
- ตรวจสอบการปนเปื้อนของโลหะหนัก / สารเคมี
- ทดสอบ shelf life และการเก็บรักษา
อายุของอาหารกระป๋อง (Shelf Life of Canned Food) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของอาหาร วิธีการผลิต การฆ่าเชื้อ และการเก็บรักษา โดยทั่วไปสามารถแบ่งข้อมูลได้ดังนี้
อายุการเก็บรักษาโดยประมาณ
ประเภทอาหารกระป๋อง | อายุการเก็บรักษา (โดยประมาณ) |
---|---|
ปลากระป๋อง (ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน) | 2 – 5 ปี |
ผักกระป๋อง (ข้าวโพด, ถั่วลันเตา) | 2 – 3 ปี |
ผลไม้กระป๋อง (ลิ้นจี่, สับปะรด) | 1.5 – 3 ปี |
อาหารพร้อมรับประทาน (แกง, ซุป) | 1 – 3 ปี |
นมข้นหวาน/นมระเหยกระป๋อง | 1 – 2 ปี |
ปัจจัยที่มีผลต่ออายุอาหารกระป๋อง
1. ชนิดของอาหาร
- อาหารที่มีไขมันหรือโปรตีนสูง อาจเสื่อมคุณภาพเร็ว (กลิ่นหืน)
- อาหารที่มีกรดสูง เช่น ผลไม้ อาจกัดกร่อนกระป๋องได้ถ้าซีลไม่ดี
2. การฆ่าเชื้อ
ควบคุมค่า F₀ ให้เหมาะสม จะช่วยยืดอายุโดยฆ่าจุลินทรีย์ได้หมด
3. สภาพของภาชนะบรรจุ
- กระป๋องต้องปิดสนิท ไม่มีรอยรั่วหรือบวม
- ห้ามกระป๋องบุบ หรือมีสนิมบริเวณรอยต่อ
4. สภาวะการเก็บรักษา
- อุณหภูมิไม่ควรเกิน 30°C
- หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด
ข้อควรระวัง: สัญญาณว่าอาหารกระป๋องเสื่อมคุณภาพ
1. กระป๋อง บวม / รั่ว / ซีลไม่สนิท
2. มีกลิ่นแปลก ๆ หรือเนื้ออาหารเปลี่ยนสี
3. มีก๊าซออกเมื่อเปิดกระป๋อง
4. มีเชื้อราหรือการเน่าเสีย
หากพบอาการเหล่านี้ ห้ามบริโภค เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะกรณีติดเชื้อ Clostridium botulinum