มี BRC แล้ว จำเป็นต้องทำ JFS เพิ่มหรือไม่?
การที่มีมาตรฐาน BRC อยู่แล้ว ถือว่าคุณมีพื้นฐานด้านความปลอดภัยอาหารที่แข็งแกร่งมากในระดับสากล เพราะ BRC เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับโดย GFSI (Global Food Safety Initiative) เช่นเดียวกับมาตรฐาน JFS-C
การที่องค์กรของคุณได้รับการรับรอง มาตรฐาน BRC (Brand Reputation through Compliance) อยู่แล้ว ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก เพราะ BRC เป็นหนึ่งในมาตรฐานด้านความปลอดภัยอาหารระดับสากลที่ได้รับการยอมรับโดย GFSI (Global Food Safety Initiative) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบการจัดการความปลอดภัยอาหารของคุณมีความเข้มแข็ง ครอบคลุม และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
ในมุมมองด้านระบบ BRC และ JFS-C มีสถานะที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจาก JFS-C ก็เป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองโดย GFSI เช่นเดียวกัน นั่นหมายความว่า หากพิจารณาเฉพาะ “ความครบถ้วนของระบบความปลอดภัยอาหาร” เพียงอย่างเดียว การมี BRC อยู่แล้วถือว่าเพียงพอในระดับสากล
อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญคือ
“จำเป็นต้องทำ JFS เพิ่มหรือไม่?”
คำตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องมาตรฐานเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ ตลาดเป้าหมายหลัก และ กลยุทธ์ทางธุรกิจ ขององค์กรเป็นสำคัญ
📌 กรณีที่ “อาจไม่จำเป็น” ต้องทำ JFS เพิ่ม
ตลาดหลักอยู่ในยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือประเทศที่ยอมรับ BRC เป็นหลัก
ลูกค้าไม่ได้ระบุเงื่อนไขให้ต้องใช้มาตรฐาน JFS
ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายและการตรวจประเมินซ้ำซ้อน
📌 กรณีที่ “ควรพิจารณา” ทำ JFS เพิ่ม
มีแผนขยายตลาดไป ญี่ปุ่น หรือคู่ค้าญี่ปุ่นเป็นหลัก
ลูกค้าญี่ปุ่นระบุชัดเจนว่าต้องการ JFS-C / JFS-B Plus
ต้องการสร้างความเชื่อมั่นเฉพาะตลาดญี่ปุ่น ซึ่งให้ความสำคัญกับ JFS เป็นพิเศษ
ใช้ JFS เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการเข้าถึง Buyer รายใหม่